ความสำเร็จของชาวสุเมเรียน
|
||
การประดิษฐ์อักษรสำหรับเขียน
ชาวสุเมเรียนได้สร้างความก้าวหน้าทางวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งในประวัติศาสตร์ นั่นคือพวกเขาพัฒนาอักษรรูปลิ่ม (cuneiform) ซึ่งเป็นระบบการเขียนระบบแรกของโลก แต่ชาวสุเมเรียนไม่มีดินสอ ปากกา หรือว่ากระดาษ
พวกเขาใช้เครื่องมือแหลมคม เรียกว่า สไตลัส (stylus – เป็นอุปกรณ์ประเภทปากกา)
ทำสัญลักษณ์รูปลิ่มบนแผ่นดินเหนียวแทน
การติดต่อสื่อสารด้วยการในยุคแรก
ได้ใช้ภาพสัญลักษณ์อักษร หรือสัญลักษณ์ที่เป็นรูปภาพ ภาพสัญลักษณ์แต่ละภาพ
เป็นตัวแทนของสิ่งของนั้น เช่น ต้นไม้หรือสัตว์ เป็นต้น แต่ในอักษรรูปลิ่ม
สัญลักษณ์ยังเป็นตัวแทนของพยางค์หรือส่วนพื้นฐานของคำด้วย
อันเป็นผลให้นักเขียนชาวสุเมเรียนสามารถรวมสัญลักษณ์เข้าด้วยกันอธิบายความคิดที่สลับซับซ้อนได้เป็นอันมาก
เช่น “สนุกสนาน” หรือ “มีพลังอำนาจ” เป็นต้น
เริ่มแรกชาวสุเมเรียนได้ใช้อักษรรูปลิ่มเพื่อบันทึกทางด้านธุรกิจ
อาลักษณ์หรือนักเขียนได้รับการจ้างมาเพื่อสลักชื่อการซื้อขายของประชาชน เจ้าหน้าที่ของรัฐและนักบวชยังได้จ้างอาลักษณ์มาให้เขียนบันทึกด้วย
การเป็นอาลักษณ์เป็นวิธีการที่จะเลื่อนระดับชนชั้นในสังคม
|
นักเรียนนักศึกษาชาวสุเมเรียนก็จะไปโรงเรียนเพื่อเรียนอ่านและเขียน
แต่นักเรียนนักศึกษาพวกพวกก็ไม่ต้องการศึกษาเล่าเรียนคล้ายกับในสมัยนี้ ประวัติศาสตร์สุเมเรียนจะเล่าไว้ว่าบิดาจะสนับสนุนให้บัตรของตนเองทำการบ้าน
ดังนี้:
“ไปเถิดลูกไปโรงเรียน
ไปยืนอยู่ข้างหน้า ‘บิดาของโรงเรียน (หมายถึงครู)’ ของลูก จงท่องการบ้าน
จงเปิดกระเป๋าเรียน จงเขียนแผ่นกระดาน...หลังจากลูกทำการบ้านเสร็จแล้วให้รายงานครู
มาหาพ่อและอย่าไปเที่ยวเร่ร่อนบนถนน”
- บทความสุเมเรียน
อ้างใน ประวัติศาสตร์เริ่มที่ซูเมอร์ (History Begins at Sumer)
โดย ซามูเอล โนอาห์
คราเมอร์ (Samuel
Noah Kramer)
ในไม่ช้า
ชาวสุเมเรียนก็เพิ่มทักษะการเขียนเข้าไปสู่วิธีการใช้แบบใหม่ ๆ เขียนงานเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ กฎหมาย
ไวยากรณ์ และคณิตศาสตร์ พร้อมทั้งสร้างงานด้านวรรณคดี ชาวสุเมเรียน
ได้เขียนนิทาน สุภาษิต และเพลง เขียนบทกวีเกี่ยวกับเทพเจ้าและชัยชนะของทหาร มหากาพย์บางเรื่องเป็นบทกวีที่ยาวเล่าเรื่องราวของวีรบุรุษ
ต่อมาประชาชนได้ใช้บทกวีเหล่านี้บางบทสร้างเป็นบทกวี มหากาพย์กิลกาเมช (The Epic of
Gilgamesh)
ซึ่งเป็นเรื่องราวตำนานของกษัตริย์สุเมเรียน
|
การเขียนของชาวสุเมเรียน
วิวัฒนาการมาจากสัญลักษณ์ยุคแรก ที่เรียกว่า ภาพสัญลักษณ์ (pictograph) ผู้เขียนได้ใช้ดินเหนียวเพื่อบันทึกคล้ายกับแผ่นดินเหนียวนี้ที่อธิบายจำนวนแกะและแพะ
|
วิวัฒนาการของการเขียน
|
||||
3300 ปี ก่อน ค.ศ.
|
2800 ปี ก่อน ค.ศ.
|
2400 ปี ก่อน ค.ศ.
|
1800 ปี ก่อน ค.ศ.
|
|
สวรรค์
|
|
|
|
|
ข้าว
|
|
|
|
|
ปลา
|
|
|
|
|
นก
|
|
|
|
|
น้ำ
|
|
ความเจริญก้าวหน้าและการประดิษฐ์
การเขียนไม่ได้เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ของชาสุเมเรียนเพียงอย่างเดียว
ประชาชนในยุคแรกเหล่านี้ยังได้สร้างความเจริญก้าวหน้าและการค้นพบอื่น ๆ
อีกมากมาย
ความก้าวหน้าด้านวิชาการเฉพาะ
การพัฒนาที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของชาวสุเมเรียน
ก็คือล้อรถ ชาวสุเมเรียนเป็นพวกแรกที่สร้างยานพาหนะที่มีล้อ เช่น
เกวียนและรถสี่ล้อที่เทียมด้วยม้า ชาวสุเมเรียนได้ประดิษฐ์อุปกรณ์เป็นล้อดินเหนียวด้วยการใช้ขันหรือชามทำเป็นรูปล้อกลม
ๆ อุปกรณ์นี้ เรียกว่า ล้อของช่างปั้น (potter’s wheel)
ไถเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของชาวสุเมเรียน
ไถใช้วัวลากไปบดดินเหนียวที่แข็งเพื่อเตรียมดินไว้เพาะปลูก เทคนิคนี้ได้เพิ่มผลผลิตในนาได้อย่างมากมาย
ชาวสุเมเรียน ยังได้ประดิษฐ์นาฬิกาหยดน้ำเพื่อวัดเวลา
ความก้าวหน้าของชาวสุเมเรียนได้ปรับปรุงการดำเนินชีวิตประจำวันให้ดีขึ้นด้วยวิธีต่าง
ๆ มากมาย ชาวสุเมเรียนยังได้สร้างท่อระบายของเสียใต้ถนนในเมืองอีกด้วย
พวกเขาได้ศึกษาการใช้สัมฤทธิ์ทำเป็นอุปกรณ์และอาวุธอันแข็งแกร่ง
และประดิษฐ์แม้กระทั่งเครื่องสำอางและเครื่องเพชรพลอยจากแก้ว
คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์
สาขาวิชาอีกสาขาหนึ่งที่ชาวสุเมเรียนมีความเลิศล้ำ
คือ คณิตศาสตร์ จริง ๆ แล้ว
พวกเขาได้พัฒนาระบบคณิตศาสตร์ตั้งอยู่บนเลขฐาน 60 อาศัยระบบนี้ พวกเขาได้แบ่งวงกลมออกเป็น 360
องศา การแบ่งหนึ่งปีเป็น 12 เดือน ซึ่งเป็นส่วนประกอบหนึ่งของเลข 60 ก็เป็นแนวความคิดอีกประการหนึ่งของชาวสุเมเรียน
นอกจากนั้น ชาวสุเมเรียนยังได้คำนวณพื้นที่รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าและรูปสามเหลี่ยมด้วย
นักปราชญ์ชาวสุเมเรียนได้ศึกษาวิทยาศาสตร์ด้วย
พวกเขาได้เขียนรายการยาว ๆ เพื่อบันทึกการศึกษาโลกทางธรรมชาติ แผ่นจารึกเหล่านี้
มีชื่อสัตว์ พืชและแร่ธาตุหลายพันชนิด
ชาวสุเมเรียนยังได้สร้างความเจริญก้าวหน้าด้านวิชาแพทยศาสตร์ด้วย
พวกเขาใช้ส่วนผสมจากสัตว์ พืช และแร่ธาตุมาผลิตเป็นยารักษาโรค รายการที่ใช้ในยาเหล่านี้
มีน้ำนม กระดองเต่า ต้นไม้ตระกูลมะเดื่อ และเกลือ ชาวสุเมเรียนยังได้บันทึกความรู้ด้านแพทยศาสตร์ไว้ด้วย
โดยการบันทึกการรักษาตามอาการและส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
ศิลปะของชาวซูเมอร์
ทักษะของชาวสุเมเรียนในด้านสาขาศิลปะ
ชิ้นงานที่ทำจากโลหะ และสถาปัตยกรรม ซึ่งเป็นสาขาวิชาว่าด้วยการก่อสร้าง
พวกเรารู้จักกันเป็นอย่างดี ซากปรักหักพังของอาคารอันใหญ่โตและผลงานอันสวยงามของศิลปะ
ทำให้พวกเราเห็นตัวอย่างความมหัศจรรย์ทางด้านการสร้างสรรค์ของชาวสุเมเรียน
สถาปัตยกรรม
นักปกครองชาวสุเมเรียนส่วนมากอาศัยอยู่ในวังอันใหญ่โต
ชาวสุเมเรียนผู้ร่ำรวยอื่น ๆ จะมีบ้านสองชั้น มีห้องมากมายเป็นโหลๆ แต่อย่างไรก็ตาม
ประชาชนสวนมากอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ มีชั้นเดียว บ้านพักเหล่านี้มีหกหรือเจ็ดห้อง
เรียงรายรอบ ๆ ลานบ้านเล็ก ๆ บ้านพักหลังและเล็กตั้งอยู่ด้านข้างตามถนนแคบ
ๆ ไม่ได้ลาดด้วยหินในเมือง
ก้อนอิฐซึ่งทำจากโคลนเป็นสิ่งกั้นอาคารที่สำคัญของบ้าน
|
ศูนย์กลางของเมืองจะมีวิหารตั้งตระหง่านอยู่
เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและน่าทึ่งมากที่สุดในแคว้นซูเมอร์ ซิกกุรัต
(ziggurat) เป็นวิหารที่ตั้งตระหง่าน มีรูปร่างคล้ายพีระมิด
มียอดสูงขึ้นอยู่เหนือเมืองแต่ละเมือง ขั้นบันไดด้านนอกนำไปลานและแทนบูชาบนยอด
สถาปัตยกรรมบางอย่างจะเพิ่มเสาหินเพื่อทำวิหารให้ท่าประทับใจมากขึ้น
ศิลปะ
ประติมากร
(หรือ ปฏิมากร) ชาวสุเมเรียน ได้ผลิตงานด้านศิลปะมากมายหลายประการ
ในบรรดาศิลปะเหล่านั้นจะเป็นรูปปั้นเทพเจ้าซึ่งสร้างไว้ในวิหาร
ศิลปินชาวสุเมเรียนยังได้สลักวัตถุเล็ก ๆ จากงาและไม้ที่หายาก
เครื่องปั้นดินเผาของชาวสุเมเรียนมีชื่อเสียงมากมายในด้านปริมาณมากกว่าคุณภาพ
ช่างปั้นผลิตรายการสิ่งของออกมามากมาย แต่เป็นงานที่มีความสวยงามเพียงเล็กน้อย
เครื่องเพชรพลอยเป็นสิ่งของที่มีชื่อเสียงมากในแคว้นซูเมอร์
เครื่องเพชรพลอยของภูมิภาคนี้จะผลิตชิ้นงานอันสวยงามมากมายจากทอง เงิน และเพชร
ที่นำเข้ามา ตุ้มหูและสิ่งของอื่น ๆ
ที่ค้นพบในภูมิภาคนี้แสดงให้เห็นว่า พ่อค้าเพชรพลอยชาวสุเมเรียนรู้จักวิธีวางชิ้นทองเข้าด้วยกันอยู่ในชั้นแนวหน้า
ตราประทับรูปทรงกลมบางทีอาจจะเป็นชิ้นงานด้านศิลปะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของชาวสุเมเรียน
วัตถุเล็ก ๆ เหล่านี้ เป็นก้อนหินทรงกลมสลักเป็นลวดลาย เมื่อกลิ้งไปบนดินเหนียว
ลวดลายจะทิ้งรอยประทับไว้ ตราประทับแต่ละอันจะทิ้งรอยประทับไว้อย่างชัดเจน
เป็นผลให้บุคคลสามารถแสดงความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ภาชนะด้วยการกลิ้งตราประทับรูปทรงกลมไปบนพื้นผิวดินเหนียวที่ยังเหลวอยู่
ประชาชนยังสามารถใช้ตราประทับรูปทรงกลมเพื่อแสดงสัญลักษณ์เป็นเอกสารหรือประดับวัตถุที่เป็นดินเหนียวอื่น
ๆ ได้
ตราประทับบางชิ้นแสดงฉากการต่อสู้
ตราประทับชิ้นอื่น ๆ แสดงพิธีการบวงสรวง
บางชิ้นเป็นเครื่องประดับที่มีราคาสูงมาก
มีเพชรที่ตัดด้วยความพิถีพิถันหลายร้อยชิ้น ตราประทับเหล่านั้นจำเป็นต้องมีทักษะมากมายในการประดิษฐ์
ชาวสุเมเรียนยังมีความชอบในดนตรีอีกด้วย
กษัตริย์และวัดวาอารามจ้างนักดนตรีมาเล่นในโอกาสพิเศษ นักดนตรีชาวสุเมเรียน
เล่นขลุ่ย กลอง กลองมือกลมที่ติดลูกกระพรวน และเครื่องดนตรีมีสาย ที่เรียกว่า
พิณตั้ง (Lyre)
เด็ก ๆ จะเล่าเรียนเพลงในโรงเรียน
ประชาชนจะร้องเพลงสวดสรรเสริญเทพเจ้าและกษัตริย์ เพลงการและการเต้นรำทำให้เกิดความบันเทิงในตลาดนัดและบ้านพัก
|
ความสำเร็จทางด้านศิลปะของชาวสุเมเรียน
มีผลงานอันสวยงามด้านทองคำ ไม้และหิน
|
ตราประทับรูปทรงกระบอกในภาพนี้สลักลงในก้อนหินกลม
ๆ แล้วก็กลิ้งลงไปบนดินเหนียวเพื่อให้เกิดรอยสัญลักษณ์
|
|
เครื่องดนตรีที่มีสายนี้
เรียกว่า พิณตั้ง (Lyre) มีลักษณะเหมือนกับศีรษะของวัวและทำจากเงินประดับด้วยเปลือกหอยและหิน
|
ชาวสุเมเรียนเป็นชนพวกแรกในเมโสโปเตเมียที่สร้างวิหารอันยิ่งใหญ่มาก
เรียกว่า ซิกกุรัต (ziggurat)
|
|||
|
เชื่อมโยงมาถึงปัจจุบัน
|
คุณทราบหรือไม่ว่าความสำเร็จของชาวสุเมเรียนยุคโบราณมากมายยังมีผลมาถึงการดำเนินชีวิตในปัจจุบันของคุณด้วย
ยกตัวอย่างเช่น ให้คุณลองนึกถึงการดำเนินชีวิตที่ไม่มีรถ
คุณจะเที่ยวไปรอบด้านได้อย่างไร? มองไปที่ถนนด้านนอก มีรถยนต์ รถบรรทุก และรถประจำทาง
สิ่งเหล่านี้เป็นวิวัฒนาการมาจากยานพาหนะที่มีล้อของชาวสุเมเรียน เก้าอี้รถเข็นสำหรับคนป่วยหรือคนพิการ
(Wheelchair) จักรยาน และ รองเท้าอินไลน์สเก็ต (in-line sketch) ทั้งหมดล้วนใช้ล้อทั้งนั้น แม้แต่ การบินไปในอากาศได้ในสมัยปัจจุบัน
ก็เป็นหนี้อย่างใหญ่หลวงจากชาวสุเมเรียน แม้แต่สิ่งประดิษฐ์อันยิ่งใหญ่อย่างจรวด
ก็ไม่สามารถทะยานขึ้นไปบนอวกาศได้ ถ้าปราศจากล้อ
|