แปลจาก...Word History ของ McDougal Littel
แปลโดย...ทรงศักดิ์ สายหยุด

ความสำเร็จของชาวสุเมเรียน

ความสำเร็จของชาวสุเมเรียน
การประดิษฐ์อักษรสำหรับเขียน
ชาวสุเมเรียนได้สร้างความก้าวหน้าทางวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งในประวัติศาสตร์  นั่นคือพวกเขาพัฒนาอักษรรูปลิ่ม (cuneiform) ซึ่งเป็นระบบการเขียนระบบแรกของโลก แต่ชาวสุเมเรียนไม่มีดินสอ ปากกา หรือว่ากระดาษ พวกเขาใช้เครื่องมือแหลมคม เรียกว่า สไตลัส (stylus – เป็นอุปกรณ์ประเภทปากกา) ทำสัญลักษณ์รูปลิ่มบนแผ่นดินเหนียวแทน
การติดต่อสื่อสารด้วยการในยุคแรก ได้ใช้ภาพสัญลักษณ์อักษร หรือสัญลักษณ์ที่เป็นรูปภาพ ภาพสัญลักษณ์แต่ละภาพ เป็นตัวแทนของสิ่งของนั้น เช่น ต้นไม้หรือสัตว์ เป็นต้น แต่ในอักษรรูปลิ่ม สัญลักษณ์ยังเป็นตัวแทนของพยางค์หรือส่วนพื้นฐานของคำด้วย อันเป็นผลให้นักเขียนชาวสุเมเรียนสามารถรวมสัญลักษณ์เข้าด้วยกันอธิบายความคิดที่สลับซับซ้อนได้เป็นอันมาก เช่น “สนุกสนาน” หรือ “มีพลังอำนาจ” เป็นต้น
เริ่มแรกชาวสุเมเรียนได้ใช้อักษรรูปลิ่มเพื่อบันทึกทางด้านธุรกิจ อาลักษณ์หรือนักเขียนได้รับการจ้างมาเพื่อสลักชื่อการซื้อขายของประชาชน เจ้าหน้าที่ของรัฐและนักบวชยังได้จ้างอาลักษณ์มาให้เขียนบันทึกด้วย การเป็นอาลักษณ์เป็นวิธีการที่จะเลื่อนระดับชนชั้นในสังคม

นักเรียนนักศึกษาชาวสุเมเรียนก็จะไปโรงเรียนเพื่อเรียนอ่านและเขียน แต่นักเรียนนักศึกษาพวกพวกก็ไม่ต้องการศึกษาเล่าเรียนคล้ายกับในสมัยนี้ ประวัติศาสตร์สุเมเรียนจะเล่าไว้ว่าบิดาจะสนับสนุนให้บัตรของตนเองทำการบ้าน ดังนี้:
“ไปเถิดลูกไปโรงเรียน ไปยืนอยู่ข้างหน้า บิดาของโรงเรียน (หมายถึงครู)ของลูก จงท่องการบ้าน จงเปิดกระเป๋าเรียน จงเขียนแผ่นกระดาน...หลังจากลูกทำการบ้านเสร็จแล้วให้รายงานครู มาหาพ่อและอย่าไปเที่ยวเร่ร่อนบนถนน”
- บทความสุเมเรียน อ้างใน ประวัติศาสตร์เริ่มที่ซูเมอร์ (History Begins at Sumer)
โดย ซามูเอล โนอาห์ คราเมอร์ (Samuel Noah Kramer)

ในไม่ช้า ชาวสุเมเรียนก็เพิ่มทักษะการเขียนเข้าไปสู่วิธีการใช้แบบใหม่ ๆ  เขียนงานเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ กฎหมาย ไวยากรณ์ และคณิตศาสตร์ พร้อมทั้งสร้างงานด้านวรรณคดี ชาวสุเมเรียน ได้เขียนนิทาน สุภาษิต และเพลง เขียนบทกวีเกี่ยวกับเทพเจ้าและชัยชนะของทหาร มหากาพย์บางเรื่องเป็นบทกวีที่ยาวเล่าเรื่องราวของวีรบุรุษ ต่อมาประชาชนได้ใช้บทกวีเหล่านี้บางบทสร้างเป็นบทกวี มหากาพย์กิลกาเมช (The Epic of Gilgamesh) ซึ่งเป็นเรื่องราวตำนานของกษัตริย์สุเมเรียน


 
าวสุเมเรียนใช้เครื่องมือพิเศษที่เรียกว่า สไตลัส (Stylus)
 เขียนบนแผ่นดินเหนียว
 
การเขียนของชาวสุเมเรียน วิวัฒนาการมาจากสัญลักษณ์ยุคแรก ที่เรียกว่า ภาพสัญลักษณ์ (pictograph)   ผู้เขียนได้ใช้ดินเหนียวเพื่อบันทึกคล้ายกับแผ่นดินเหนียวนี้ที่อธิบายจำนวนแกะและแพะ
วิวัฒนาการของการเขียน

3300 ปี ก่อน ค.ศ.
2800 ปี ก่อน ค.ศ.
2400 ปี ก่อน ค.ศ.
1800 ปี ก่อน ค.ศ.




สวรรค์








ข้าว








ปลา








นก







น้ำ







ความเจริญก้าวหน้าและการประดิษฐ์
การเขียนไม่ได้เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ของชาสุเมเรียนเพียงอย่างเดียว ประชาชนในยุคแรกเหล่านี้ยังได้สร้างความเจริญก้าวหน้าและการค้นพบอื่น ๆ อีกมากมาย

ความก้าวหน้าด้านวิชาการเฉพาะ
การพัฒนาที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของชาวสุเมเรียน ก็คือล้อรถ ชาวสุเมเรียนเป็นพวกแรกที่สร้างยานพาหนะที่มีล้อ เช่น เกวียนและรถสี่ล้อที่เทียมด้วยม้า  ชาวสุเมเรียนได้ประดิษฐ์อุปกรณ์เป็นล้อดินเหนียวด้วยการใช้ขันหรือชามทำเป็นรูปล้อกลม ๆ  อุปกรณ์นี้ เรียกว่า ล้อของช่างปั้น (potter’s wheel)
ไถเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของชาวสุเมเรียน ไถใช้วัวลากไปบดดินเหนียวที่แข็งเพื่อเตรียมดินไว้เพาะปลูก เทคนิคนี้ได้เพิ่มผลผลิตในนาได้อย่างมากมาย ชาวสุเมเรียน ยังได้ประดิษฐ์นาฬิกาหยดน้ำเพื่อวัดเวลา
ความก้าวหน้าของชาวสุเมเรียนได้ปรับปรุงการดำเนินชีวิตประจำวันให้ดีขึ้นด้วยวิธีต่าง ๆ มากมาย ชาวสุเมเรียนยังได้สร้างท่อระบายของเสียใต้ถนนในเมืองอีกด้วย พวกเขาได้ศึกษาการใช้สัมฤทธิ์ทำเป็นอุปกรณ์และอาวุธอันแข็งแกร่ง และประดิษฐ์แม้กระทั่งเครื่องสำอางและเครื่องเพชรพลอยจากแก้ว

คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์
สาขาวิชาอีกสาขาหนึ่งที่ชาวสุเมเรียนมีความเลิศล้ำ คือ คณิตศาสตร์  จริง ๆ แล้ว พวกเขาได้พัฒนาระบบคณิตศาสตร์ตั้งอยู่บนเลขฐาน 60  อาศัยระบบนี้ พวกเขาได้แบ่งวงกลมออกเป็น 360 องศา การแบ่งหนึ่งปีเป็น 12 เดือน ซึ่งเป็นส่วนประกอบหนึ่งของเลข 60 ก็เป็นแนวความคิดอีกประการหนึ่งของชาวสุเมเรียน นอกจากนั้น ชาวสุเมเรียนยังได้คำนวณพื้นที่รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าและรูปสามเหลี่ยมด้วย
นักปราชญ์ชาวสุเมเรียนได้ศึกษาวิทยาศาสตร์ด้วย พวกเขาได้เขียนรายการยาว ๆ เพื่อบันทึกการศึกษาโลกทางธรรมชาติ แผ่นจารึกเหล่านี้ มีชื่อสัตว์ พืชและแร่ธาตุหลายพันชนิด
ชาวสุเมเรียนยังได้สร้างความเจริญก้าวหน้าด้านวิชาแพทยศาสตร์ด้วย พวกเขาใช้ส่วนผสมจากสัตว์ พืช และแร่ธาตุมาผลิตเป็นยารักษาโรค รายการที่ใช้ในยาเหล่านี้ มีน้ำนม กระดองเต่า ต้นไม้ตระกูลมะเดื่อ และเกลือ ชาวสุเมเรียนยังได้บันทึกความรู้ด้านแพทยศาสตร์ไว้ด้วย โดยการบันทึกการรักษาตามอาการและส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

ศิลปะของชาวซูเมอร์
ทักษะของชาวสุเมเรียนในด้านสาขาศิลปะ ชิ้นงานที่ทำจากโลหะ และสถาปัตยกรรม ซึ่งเป็นสาขาวิชาว่าด้วยการก่อสร้าง พวกเรารู้จักกันเป็นอย่างดี ซากปรักหักพังของอาคารอันใหญ่โตและผลงานอันสวยงามของศิลปะ ทำให้พวกเราเห็นตัวอย่างความมหัศจรรย์ทางด้านการสร้างสรรค์ของชาวสุเมเรียน

สถาปัตยกรรม
นักปกครองชาวสุเมเรียนส่วนมากอาศัยอยู่ในวังอันใหญ่โต ชาวสุเมเรียนผู้ร่ำรวยอื่น ๆ จะมีบ้านสองชั้น มีห้องมากมายเป็นโหลๆ แต่อย่างไรก็ตาม ประชาชนสวนมากอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ มีชั้นเดียว บ้านพักเหล่านี้มีหกหรือเจ็ดห้อง เรียงรายรอบ ๆ    ลานบ้านเล็ก ๆ  บ้านพักหลังและเล็กตั้งอยู่ด้านข้างตามถนนแคบ ๆ ไม่ได้ลาดด้วยหินในเมือง ก้อนอิฐซึ่งทำจากโคลนเป็นสิ่งกั้นอาคารที่สำคัญของบ้าน

ศูนย์กลางของเมืองจะมีวิหารตั้งตระหง่านอยู่ เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและน่าทึ่งมากที่สุดในแคว้นซูเมอร์ ซิกกุรัต (ziggurat) เป็นวิหารที่ตั้งตระหง่าน มีรูปร่างคล้ายพีระมิด มียอดสูงขึ้นอยู่เหนือเมืองแต่ละเมือง ขั้นบันไดด้านนอกนำไปลานและแทนบูชาบนยอด สถาปัตยกรรมบางอย่างจะเพิ่มเสาหินเพื่อทำวิหารให้ท่าประทับใจมากขึ้น

ศิลปะ
ประติมากร (หรือ ปฏิมากร) ชาวสุเมเรียน ได้ผลิตงานด้านศิลปะมากมายหลายประการ ในบรรดาศิลปะเหล่านั้นจะเป็นรูปปั้นเทพเจ้าซึ่งสร้างไว้ในวิหาร ศิลปินชาวสุเมเรียนยังได้สลักวัตถุเล็ก ๆ จากงาและไม้ที่หายาก เครื่องปั้นดินเผาของชาวสุเมเรียนมีชื่อเสียงมากมายในด้านปริมาณมากกว่าคุณภาพ ช่างปั้นผลิตรายการสิ่งของออกมามากมาย แต่เป็นงานที่มีความสวยงามเพียงเล็กน้อย
เครื่องเพชรพลอยเป็นสิ่งของที่มีชื่อเสียงมากในแคว้นซูเมอร์ เครื่องเพชรพลอยของภูมิภาคนี้จะผลิตชิ้นงานอันสวยงามมากมายจากทอง เงิน และเพชร ที่นำเข้ามา  ตุ้มหูและสิ่งของอื่น ๆ ที่ค้นพบในภูมิภาคนี้แสดงให้เห็นว่า พ่อค้าเพชรพลอยชาวสุเมเรียนรู้จักวิธีวางชิ้นทองเข้าด้วยกันอยู่ในชั้นแนวหน้า
ตราประทับรูปทรงกลมบางทีอาจจะเป็นชิ้นงานด้านศิลปะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของชาวสุเมเรียน วัตถุเล็ก ๆ เหล่านี้ เป็นก้อนหินทรงกลมสลักเป็นลวดลาย เมื่อกลิ้งไปบนดินเหนียว ลวดลายจะทิ้งรอยประทับไว้ ตราประทับแต่ละอันจะทิ้งรอยประทับไว้อย่างชัดเจน เป็นผลให้บุคคลสามารถแสดงความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ภาชนะด้วยการกลิ้งตราประทับรูปทรงกลมไปบนพื้นผิวดินเหนียวที่ยังเหลวอยู่ ประชาชนยังสามารถใช้ตราประทับรูปทรงกลมเพื่อแสดงสัญลักษณ์เป็นเอกสารหรือประดับวัตถุที่เป็นดินเหนียวอื่น ๆ ได้
ตราประทับบางชิ้นแสดงฉากการต่อสู้ ตราประทับชิ้นอื่น ๆ แสดงพิธีการบวงสรวง บางชิ้นเป็นเครื่องประดับที่มีราคาสูงมาก มีเพชรที่ตัดด้วยความพิถีพิถันหลายร้อยชิ้น ตราประทับเหล่านั้นจำเป็นต้องมีทักษะมากมายในการประดิษฐ์
         ชาวสุเมเรียนยังมีความชอบในดนตรีอีกด้วย กษัตริย์และวัดวาอารามจ้างนักดนตรีมาเล่นในโอกาสพิเศษ นักดนตรีชาวสุเมเรียน เล่นขลุ่ย กลอง กลองมือกลมที่ติดลูกกระพรวน และเครื่องดนตรีมีสาย ที่เรียกว่า พิณตั้ง (Lyre) เด็ก ๆ จะเล่าเรียนเพลงในโรงเรียน ประชาชนจะร้องเพลงสวดสรรเสริญเทพเจ้าและกษัตริย์ เพลงการและการเต้นรำทำให้เกิดความบันเทิงในตลาดนัดและบ้านพัก





 
ความสำเร็จทางด้านศิลปะของชาวสุเมเรียน มีผลงานอันสวยงามด้านทองคำ ไม้และหิน 
 
ตราประทับรูปทรงกระบอกในภาพนี้สลักลงในก้อนหินกลม ๆ แล้วก็กลิ้งลงไปบนดินเหนียวเพื่อให้เกิดรอยสัญลักษณ์
 
เครื่องดนตรีที่มีสายนี้ เรียกว่า พิณตั้ง (Lyre) มีลักษณะเหมือนกับศีรษะของวัวและทำจากเงินประดับด้วยเปลือกหอยและหิน
 
ซิกกุรัต (Ziggurat)
ชาวสุเมเรียนเป็นชนพวกแรกในเมโสโปเตเมียที่สร้างวิหารอันยิ่งใหญ่มาก เรียกว่า ซิกกุรัต (ziggurat


 
ศีรษะวัวตัวผู้ทำจากทองและเงิน

กริชทองนี้ ค้นพบในสุสานหลวง 

เชื่อมโยงมาถึงปัจจุบัน



คุณทราบหรือไม่ว่าความสำเร็จของชาวสุเมเรียนยุคโบราณมากมายยังมีผลมาถึงการดำเนินชีวิตในปัจจุบันของคุณด้วย ยกตัวอย่างเช่น ให้คุณลองนึกถึงการดำเนินชีวิตที่ไม่มีรถ คุณจะเที่ยวไปรอบด้านได้อย่างไร? มองไปที่ถนนด้านนอก มีรถยนต์ รถบรรทุก และรถประจำทาง สิ่งเหล่านี้เป็นวิวัฒนาการมาจากยานพาหนะที่มีล้อของชาวสุเมเรียน เก้าอี้รถเข็นสำหรับคนป่วยหรือคนพิการ (Wheelchair) จักรยาน และ รองเท้าอินไลน์สเก็ต  (in-line sketch)  ทั้งหมดล้วนใช้ล้อทั้งนั้น  แม้แต่ การบินไปในอากาศได้ในสมัยปัจจุบัน ก็เป็นหนี้อย่างใหญ่หลวงจากชาวสุเมเรียน แม้แต่สิ่งประดิษฐ์อันยิ่งใหญ่อย่างจรวด ก็ไม่สามารถทะยานขึ้นไปบนอวกาศได้ ถ้าปราศจากล้อ