ราชวงศ์ฉิน
(Qin
Dynasty)
|
||
การปกครองอันเข้มแข็งของจักรพรรดิฉิน
ยุครณรัฐเป็นช่วงเวลาที่จีนต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงอำนาจ
รัฐหนึ่ง ชื่อฉิน ได้สร้างกองทัพที่เข้มแข็งซึ่งได้ตีกองทัพของคู่แข่งจนพ่ายแพ้
ในที่สุด ราชวงศ์ฉินก็ได้รวบรวมประเทศมาอยู่ภายในการปกครองรัฐบาลเดียว
|
||
ฉื่อหวังตี้ขึ้นครองราชย์
เมื่อ 221
ปีก่อนคริสตกาล กษัตริย์ฉิน นามว่า อิ๋งเจิ้ง ประสบผลสำเร็จในรวบรวมจีนเป็นเอกภาพ
พระองค์ให้เรียกตัวพระองค์เองว่า ฉื่อหวังตี้ (Shi Huangdi) ซึ่งหมายถึงความว่า
“จักรพรรดิองค์แรก”
ฉื่อหวังตี้ดำเนินตามความเชื่อทางการเมืองของลัทธินิตินิยม
พระองค์ได้สร้างการปกครองที่เข้มแข็งด้วยกฎหมายที่เข้มงวดและการลงโทษที่โหดร้าย
ฉื่อหวังตี้ได้บัญชาให้ทุก
ๆ คนดำเนินตามนโยบายของพระองค์ พระองค์รับสั่งให้เผาข้อเขียนทั้งหมดที่ไม่เห็นด้วยกับลัทธินิตินิยม
มีเพียงหนังสือที่เกี่ยวกับเกษตรกรรม แพทยศาสตร์
และการทำนายอนาคตเท่านั้นที่เก็บบันทึกไว้ นักวิชาการจำนวนมากได้คัดค้านการเผาหนังสือ
จักรพรรดิมีปฏิกิริยาต่อการคัดค้านนั้นด้วยการฝังนักวิชาการ จำนวน 460
คนทั้งเป็น
ฉื่อหวังตี้ยังใช้กองทัพของพระองค์ขยายจักรวรรดิอีกด้วย
อันดับแรก กองทัพเหล่านั้นได้ยึดครองดินแดนรอง ๆ แม่น้ำสายสำคัญของจีนทั้งสองสาย
แล้วทหารของพระองค์ก็กลับไปทางเหนือและเดินทัพต่อไปเกือบถึงทะเลทรายโกบี
ทางทิศใต้ ทหารเหล่านั้น ได้รุกรานดินแดนมากขึ้นและยาตราทัพไปถึงแม่น้ำซี (Xi River)
ฉื่อหวังตี้มั่นใจว่าจะไม่มีการปฏิวัติใด
ๆ ในอนาคตในดินแดนใหม่ของพระองค์ ในขณะที่เหล่าทหารของพระองค์ได้พิชิตเมืองหลวง
แล้วพระองค์ก็รับสั่งให้ทำลายกำแพงและยึดอาวุธทั้งหมด
จีนภายใต้การปกครองของราชวงศ์ฉิน
ฉื่อหวังตี้ได้เปลี่ยนแปลงระบบการเมืองเก่าของจีน
พระองค์อ้างสิทธิ์ในอำนาจทั้งหมดและไม่แบ่งอำนาจให้กับขุนนาง แม้พระองค์ยึดดินแดนไปจากขุนนางเหล่านั้นและบังคับให้ขุนนางหลายพันคนอพยพออกไปสู่เมืองหลวงพร้อมกับครอบครัวตนเอง
เพื่อให้ขุนนางเหล่าอยู่ในสายตาของพระองค์ พระองค์ยังได้บังคับให้คนธรรมดาสามัญทำงานโครงการก่อสร้างของรัฐบาล
แรงงานได้เผชิญกับความยากลำบาก อันตราย และความตายบ่อย ๆ อยู่หลายปี
ฉื่อหวังตี้แบ่งการปกครองจีนเป็นเขตการปกครอง
แต่ละเขตมีผู้ว่าการเป็นของตนเอง
เขตการปกครองแบ่งย่อยออกเป็นมณฑลซึ่งบริหารโดยเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้ง
การจัดการนี้ได้ช่วยให้จักรพรรดิบังคับใช้ระบบภาษี
และยังช่วยราชวงศ์ฉินบังคับใช้ห่วงโซ่แห่งการบังคับบัญชาแบบเข้มงวดด้วย
|
จีนเป็นเอกภาพ
การปกครองของราชวงศ์ฉินได้นำการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอื่น
ๆ มาสู่จีน ภายใต้การปกครองของฉื่อหวังตี้ มีนโยบายและความสำเร็จใหม่ ๆ
รวมประชาชนจีนเป็นเอกภาพ
นโยบายของราชวงศ์ฉิน
ตามที่เราทราบแล้วว่า
ภูเขาและแม่น้ำได้แบ่งจีนออกเป็นภูมิภาคต่าง ๆ กัน วัฒนธรรมประเพณีต่างกัน
และประชาชนในแต่พื้นที่ก็มีเงินตรา ระบบการเขียน และกฎหมายเป็นของตนเอง
ฉื่อหวังตี้ ต้องให้ชาวจีนทั้งหมดทำทุก ๆ สิ่งให้เป็นแบบเดียวกัน
ยุคแรกในการปกครองของพระองค์
จักรพรรดิได้จัดตั้งระบบกฎหมายเป็นแบบเดียวกัน
การปกครองและการลงโทษก็เป็นแบบเดียวกันในทุกส่วนของจักรวรรดิ ฉื่อหวังตี้ยังทำให้ภาษาที่เขียนเป็นมาตรฐานอีกด้วย
ประชาชนทุก ๆ แห่งจำเป็นต้องเขียนด้วยการใช้สัญลักษณ์ชุดเดียวกัน ประชาชนจากภูมิภาคต่าง
ๆ กันในปัจจุบันนี้สามารถติดต่อสื่อสารกันด้วยการเขียน
ข้อนี้ทำให้ประชาชนรู้สึกว่ามีวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ร่วมกัน
ต่อมา
จักรพรรดิก็ได้จัดตั้งระบบเงินตราแบบใหม่ เหรียญทองและเหรียญทองแดงที่เป็นมาตรฐานก็กลายเป็นเหรียญที่ใช้ทั่วไปในจีน
น้ำหนักและขนาดก็เป็นแบบมาตรฐาน แม้ความกว้างของแกนกลางก็ต้องเท่ากัน
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงและระบบการเขียนเป็นเอกภาพ การค้าขายระหว่างภูมิภาคต่าง ๆ
กันก็ง่ายมากขึ้น รัฐบาลฉินบังคับมาตรฐานใหม่เหล่านี้อย่างเข้มงวด ประชากรคนใดที่ไม่เชื่อฟังกฎหมายจะถูกลงโทษอย่างรุนแรง
|
ความสำเร็จของราชวงศ์ฉิน
โครงการก่อสร้างใหม่มีขนาดใหญ่โตยังได้ช่วยทำให้ประเทศเป็นเอกภาพด้วย
ภายใต้นการปกครองของฉื่อหวังตี้
ชาวจีนได้สร้างเครือข่ายถนนเชื่อมต่อเมืองหลวงเข้ากับทุก ๆ ส่วนของจักรวรรดิ
ถนนเหล่านี้ทำให้การสัญจรไปมาสะดวกขึ้นแก่ทุก ๆ คน
ถนนใหม่เหล่านี้แต่ละสายมีความกว้างขนาดเดียวกัน คือ กว้าง 50 ก้าว การออกแบบนี้ช่วยให้กองทัพเคลื่อนย้ายได้อย่างรวดเร็วและง่ายที่จะปราบการจลาจลในบริเวณที่ห่างไกล
ระบบน้ำของจีนยังได้รับการปรับปรุง
คนงานได้ก่อสร้างคลองเพื่อเชื่อมต่อแม่น้ำในประเทศ
คลองก็คล้ายกับถนนได้ปรับปรุงการขนส่งไปทั่วประเทศ
การใช้คลองแบบใหม่และแม่น้ำด้วยกันทำให้ง่ายและเร็วขึ้นในการบรรทุกสิ้นค้าทางเรือไปจากทางเหนือไปยังทางใต้
อีกประการหนึ่ง ราชวงศ์ฉินได้สร้างระบบชลประทานเพื่อทำพื้นแผ่นดินจำนวนมากให้เหมาะสมสำหรับการเกษตรกรรม
ระบบนั้นบางส่วนก็ยังใช้อยู่ในปัจจุบัน
ฉื่อหวังตี้ยังมีความต้องการจะป้องกันประเทศจากการรุกรานด้วย
เผ่าเร่ร่อนที่อยู่ทางตอนเหนือเป็นนักรบที่โหดร้าย และพวกก็คุกคามจีนอย่างจริงจัง
ด้วยความหวังที่จะหยุดการรุกรานของคนเหล่านั้น จักรพรรดิจึงได้สร้างกำแพงเมืองจีน
(the Great
Wall) ซึ่งเป็นแนวป้องกันที่เชื่อมกำแพงยุคแรกช้ามไปยังชายแดนตอนเหนือของจีน
กำแพงส่วนแรกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 600 ก่อนคริสตกาล เพื่อป้องกันกลุ่มผู้รุกราน
ราชวงศ์ฉินได้เชื่อมกำแพงสวนแรกให้ยาวออกไป โดยไม่ได้ทำลายโครงสร้าง
การสร้างกำแพงจำเป็นต้องใช้แรงงานจากคนงานหลายแสนคนเป็นเวลาหลายปี คนงานจำนวนมากได้ตายลงเนื่องจากการสร้างกำแพง
การล่มสลายของราชวงศ์ฉิน
นโยบายของฉื่อหวังตี้รวบรวมจีนเป็นเอกภาพ
แต่อย่างไรก็ตาม นโยบายของพระองค์ยังได้สร้างความไม่พอใจด้วย ชาวไร่ชาวนา
นักวิชาการ และขุนนางเกลียดแนวทางอันโหดร้ายของพระองค์
ในที่พระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อ 210 ปีก่อนคริสตกาล จีนก็เป็นเอกภาพ
แต่ก็ไม่ดำรงได้อยู่ไม่นาน ภายในสองสามปี รัฐบาลก็เริ่มแตกแยก
กองกำลังก่อการกบฏก่อตัวขึ้นทั่วประเทศ แต่กองกำลังก็อ้างบัญชาของสวรรค์ให้มาเป็นตัวแทนของจักรพรรดิ ในบรรดากลุ่มเหล่านั้น มีกลุ่มหนึ่งได้โจมตีเมืองหลวงของราชวงศ์ฉิน และจักรพรรดิใหม่ได้ยอมแพ้ อำนาจของราชวงศ์ฉินก็สูญสิ้น เมื่อไม่มีรัฐบาลกลาง ประเทศก็ตกอยู่ในสงครามกลางเมือง
กองกำลังก่อการกบฏก่อตัวขึ้นทั่วประเทศ แต่กองกำลังก็อ้างบัญชาของสวรรค์ให้มาเป็นตัวแทนของจักรพรรดิ ในบรรดากลุ่มเหล่านั้น มีกลุ่มหนึ่งได้โจมตีเมืองหลวงของราชวงศ์ฉิน และจักรพรรดิใหม่ได้ยอมแพ้ อำนาจของราชวงศ์ฉินก็สูญสิ้น เมื่อไม่มีรัฐบาลกลาง ประเทศก็ตกอยู่ในสงครามกลางเมือง
|
|
อัตชีวประวัติ
จักรพรรดิฉื่อหวังตี้
(มีชีวิตอยู่ระหว่าง 259 – 210 ปีก่อนคริสตกาล)
พระเจ้าฉื่อหวังตี้ได้สร้างเมืองหลวงใหม่ที่เสียนหยาง
ปัจจุบันคือเมืองซีอาน ด้านทิศตะวันออกของจีน พระเจ้าฉื่อหวังตี้ไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชน
พระองค์ใช้ความพยายามมากมายเพื่อสร้างกำไรให้กับชีวิตตนเอง
และจักรพรรดิมีชีวิตอยู่ด้วยความกลัวการโจมตีมากมาย พระองค์ค้นหาแนวทางใหม่ ๆ เพื่อป้องกันตัวเองและเพื่อยืดชีวิตของตนเองอยู่เสมอ
ในขณที่พระเจ้าฉื่อหวังตี้สิ้นพระชนม์
พระองค์ไม่ไว้ใจแม้กระทั่งเหล่ารัฐมนตรีของพระองค์เอง แม้ในขณะที่ตาย
พระองค์ยังแวดล้อมด้วยองครักษ์ คือ กองทัพดินเหนียวที่มีชื่อเสียง
พระเจ้าฉื่อหวังตี้เป็นนักปกครองที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์จีน
นักปกครองคนแรกที่รวบรวมจีนให้เป็นเอกภาพ พระองค์ยังได้รับการระลึกถึงโครงการก่อสร้างของพระองค์
พระองค์ได้สร้างถนนและคลองทั่วจีนและขยายกำแพงเมืองจีนจนได้ชื่อว่า the
Great Wall