แปลจาก...Word History ของ McDougal Littel
แปลโดย...ทรงศักดิ์ สายหยุด

พีระมิดแห่งลุ่มแม่น้ำไนล์ (ต่อ)

การดำเนินชีวิตในสังคมอียิปต์โบราณ
การดำเนินชีวิตในสังคมอียิปต์
         สังคมอียิปต์เหมือนจะสร้างพีระมิดให้เป็นอนุเสาวรีย์อันยิ่งใหญ่แก่กษัตริย์  กษัตริย์ พระราชินีและพระราชวงศ์จะสถิตอยู่ที่ด้านบน ด้านล่างของบุคคลเหล่านั้น จะเป็นสมาชิกอื่น ๆ ของสังคมชั้นสูงซึ่งรวมถึงเจ้าของที่ดินผู้ร่ำรวย ข้าราชการ นักบวชและผู้บัญชาการกองทัพ ชั้นถัดไปของพีระมิดเป็น คือชนชั้นกลางซึ่งรวมถึงพ่อค้าและช่างฝีมือ ที่ฐานของพีระมิดคือชนชั้นต่ำ ซี่งเป็นชนชั้นที่ใหญ่ที่สุด ประกอบด้วยเกษตรกรชาวนาและกรรมกร
ในระยะเวลาต่อมาของประวัติศาสตร์อียิปต์ ความเป็นทาสกลายเป็นแหล่งแรงงานอย่างกว้างขวาง ทาสส่วนมากจะถูกจับมาจากสงครามกับต่างชาติ ทำหน้าที่รับใช้ในบ้านของเศรษฐีหรือถูกใช้งานไม่รู้จบในการทำเหมืองแร่ทองคำของอียิปต์ตอนบน
ชาวอียิปต์ไม่ได้กีดกันชนชั้นทางสังคม ชาวอียิปต์ที่เป็นชนชั้นล่างและชนชั้นกลางจะได้รับสถานะที่สูงขึ้นผ่านการแต่งงานหรือความสำเร็จในการงานของพวกเขา แม้ทาสบางคนมีความปรารถนาจะได้รับเสรีภาพเป็นรางวัลด้วยการให้บริการอย่างจงรักภักดีของพวกเขา การจะได้รับตำแหน่งสูงสุด ผู้คนจะต้องมีความสามารถในการอ่านและการเขียน เมื่อคนมีทักษะเหล่านี้อาชีพหลากหลายก็เปิดขึ้นในกองทัพ กองคลังหลวง ปุโรหิตและศาลของกษัตริย์
ผู้หญิงในอียิปต์มีสิทธิมากมายเช่นเดียวกับผู้ชาย ยกตัวอย่างเช่น ผู้หญิงที่ร่ำรวยหรือเป็นชนชั้นกลางสามารถเป็นเจ้าของและขายทรัพย์สมบัติได้ เธอจะขอแต่งงานหรือขอหย่าก็ได้ ถ้าเธอหย่าร้าง จะมีสิทธิได้ทรัพย์สมบัติของคู่สมรสถึงหนึ่งในสาม
การเขียนของชาวอียิปต์  การพัฒนาการเขียนเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่นำไปสู่การเจริญเติบโตของอารยธรรมอียิปต์ ภาพสัญลักษณ์ที่เรียบง่ายเป็นรูปแบบของการเขียนที่เก่าแก่ที่สุดในอียิปต์ แต่อาลักษณ์ได้พัฒนาระบบการเขียนที่มีความยืดหยุ่นมากได้อย่างรวดเร็ว เรียกว่า ไฮเออโรกลีฟ (hieroglyphics) คำนี้มาจากคำภาษากรีกว่า hieros กับ gluph หมายความว่า "การแกะสลักอันศักดิ์สิทธิ์"
รูปแบบการเขียนอักษรไฮเออโรกลีฟในยุคแรกสุด เหมือนกับการเขียนอักษรคูนิฟอร์มในเมโสโปเตเมีย คือ ใช้ภาพแทนความคิด ยกตัวอย่างเช่น ภาพของผู้ชายหนึ่งคนใช้แทนความคิดแทนผู้ชายหนึ่งคน ในไม่ช้า ระบบได้มีการเปลี่ยนแปลงมากจนกระทั่งใช้ภาพแทนเสียงเช่นเดียวกับความคิด ยกตัวอย่างเช่น นกฮูกใช้แทนตัวเสียงตัว m หรือแทนเสียงนกเลย ตัวอักษรไฮเออโรกลีฟสามารถนำมาใช้เกือบจะเหมือนตัวอักษร
แม้ว่าตัวอักษรไฮเออโรกลีฟจะถูกเขียนขึ้นเป็นครั้งแรกในหินและดิน เหมือนในเมโสโปเตเมีย ในไม่ช้า ชาวอียิปต์ก็ได้คิดค้นพื้นผิวสำหรับรองรับการเขียนได้ดีกว่า คือ ต้นปาปิรัสหรือปาปิรุส (papyrus)  ต้นไม้เหล่านี้เติบโตขึ้นในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำที่เป็นหนองบึง ชาวอียิปต์จะผ่าต้นปาปิรัสเป็นแผ่นบาง ๆ วางไว้เป็นแนวขวางสองชั้น ชุบแล้วบีบเข้ากัน ในขณะที่ต้นปาปิรัสแห้ง น้ำยางของต้นไม้จะทำให้แผ่นบางนั้นติดเข้าเป็นแผ่นเดียวกันคล้ายกับแผ่นกระดาษ

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในอียิปต์  ความต้องการด้านการปฏิบัติได้นำไปสู่สิ่งประดิษฐ์ของชาวอียิปต์จำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น ชาวอียิปต์ได้พัฒนาปฏิทินเพื่อเฝ้าดูเวลาระหว่างน้ำท่วมและวางแผนการเพาะปลูกตามฤดูกาลของพวกเขา  นักบวชสังเกตว่า ดาวดวงเดิม คือ ดาวซิริอุส (Sirius) จะปรากฏอยู่เหนือขอบฟ้าทางทิศตะวันออกก่อนที่น้ำท่วมจะมาถึงพอดี
นักบวชเหล่านั้นจะคำนวณจำนวนวันระหว่างที่ดาวดวงนั้นขึ้นช่วงหนึ่งและช่วงต่อไปจะเป็น 365 วัน ซึ่งเป็นปีทางสุริยคติ พวกเขาจะแบ่งปีนี้เป็น 12 เดือน แต่ละเดือนจะมี 30 วันและเพิ่มห้าวันสำหรับวันหยุดพักผ่อนและวันกินเลี้ยง ปฏิทินนี้ถูกต้องมากจนกระทั่งขาดไปตามปีทางสุริยคติเพียงหกชั่วโมงเท่านั้น
ชาวอียิปต์ได้พัฒนาระบบตัวเลขที่เขียนขึ้นสำหรับการนับ การบวกและการลบ ระบบจะช่วยในการประเมินและจัดเก็บภาษี  อาลักษณ์ได้ใช้รูปแบบยุคแรกของรูปทรงเรขาคณิตเพื่อสำรวจและกำหนดขอบเขตกรรมสิทธิ์ใหม่หลังจากที่น้ำท่วมเป็นประจำทุกปี ความรู้ทางคณิตศาสตร์ช่วยให้วิศวกรและสถาปนิกผู้ชำนาญของอียิปต์ทำการวัดได้อย่างถูกต้องในการสร้างพีระมิดอันโดดเด่นและพระราชวัง สถาปนิกชาวอียิปต์เป็นคนแรกที่ใช้เสาหินในบ้าน พระราชวังและวิหาร

การแพทย์อียิปต์ก็ยังมีชื่อเสียงในโลกยุคโบราณอีกด้วย แพทย์ชาวอียิปต์รู้วิธีการตรวจสอบอัตราการเต้นหัวใจของคนด้วยคลำหาชีพจรในส่วนที่แตกต่างกันของร่างกาย พวกเขาจัดกระดูกที่หักด้วยเฝือกและมีการรักษาบาดแผลและอาการไข้อย่างมีประสิทธิภาพ  พวกเขายังใช้การผ่าตัดเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยบางอย่างด้วย
ผู้รุกรานเข้าครอบครองอียิปต์
         อำนาจของฟาโรห์เสื่อมลงเมื่อประมาณ 2,180 ปีก่อนคริสตกาล เป็นสัญลักษณ์แห่งการสิ้นสุดของอาณาจักรเก่า (Old Kingdom) ฟาโรห์ผู้แข็งแกร่งได้ยึดการครอบครองคืนในช่วงอาณาจักรกลาง (Middle Kingdom, 2040-1640 ก่อนคริสตศักราช) ตลอดจนฟื้นฟูกฎหมายและระเบียบวินัย ปรับปรุงการค้าและการขนส่งโดยการขุดคลองจากแม่น้ำไนล์ไปยังทะเลแดง สร้างเขื่อนขนาดใหญ่เพื่อเก็บกักและขุดทางน้ำเวลาแม่น้ำไนล์ไหลท่วมเพื่อการชลประทาน สร้างพื้นที่เพาะปลูกใหม่หลายพันเอเคอร์โดยการระบายหนองน้ำของอียิปต์ตอนล่าง
         ความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรกลางดำรงอยู่ได้ไม่นาน เมื่อประมาณ 1640 ปี ก่อนคริสตกาล มีกลุ่มคนจากบรเวณปาเลสไตน์อพยพข้ามคอคอดสุเอซไปสู่อียิปต์ คนเหล่านี้ คือ พวกฮิกซอส (Hyksos)  ซึ่งหมายความว่า "ผู้ปกครองของดินแดนต่างถิ่น" พวกฮิกซอสปกครองอียิปต์ตั้งแต่ 1630-1523 ปีก่อนคริสตกาล


รูปปั้นอาลักษณ์
รูปปั้นอาลักษณ์
ประวัติศาสตร์เชิงลึก
ศิลาโรเซตตา (The Rosetta Stone)


ศิลาโรเซตตา (The Rosetta Stone)
ใน ค.ศ. 1799 ใกล้หมู่บ้านสามเหลี่ยมโรเซตตา (the delta village of Rosetta) ทหารฝรั่งเศสได้พบขัดหินสีดำสลักข้อความสามภาษา คือ หนึ่ง เขียนเป็นอักษรไฮเออโรกลีฟ (ภาพบน) สอง เขียนเป็นอักษรไฮเออโรกลีฟแบบง่ายขึ้น  สาม เขียนเป็นภาษากรีก (สองภาพล่าง)
เนื่องจากภษากรีกโบราณเป็นภาษาที่รู้จักกันดี จึงให้เบาะแสความหมายของอักษรไฮเออโรกลีฟ  แม้กระนั้น การถอดรหัสศิลาโรเซตตาก็ใช้เวลาหลายปี ใน  ค.ศ. 1822  นักวิชาการชาวฝรั่งเศส ชื่อ ฌ็อง-ฟร็องซัว ช็องปอลียง (Jean-François Champollion)  ก็ถอดรหัสอักษรไฮเออโรกลีฟได้ในที่สุด


ประวัติศาสตร์เชิงลึก

 
ศพดอง
ชาวอียิปต์โบราณจะดองศพเพื่อให้จิตวิญญาณคืนกลับเข้าร่างได้ในภายหลัง คนแต่งศพชาวอียิปต์จะมีความชำนาญมากจนกระทั่งนักโบราณคดีสมัยใหม่ค้นพบมัมมี่ที่ยังคงมีเส้นผม ผิวหนัง และฟันอยู่ 















ภาชนะดินเผาเหล่านี้เรียกว่า โถคาโนปิก (Canopic jars) หลังจากเตรียมมัมมี่แล้ว คนแต่งศพจะวางสมอง ตับและอวัยวะภายในอื่น ๆ ของมัมมี่ไว้ในโถเหล่านี้
 
หน้ากากแห่งความตาย
หน้ากากแห่งความตายที่เป็นทองคำแท่งทึบนี้ของฟาโรห์ตุตันคาเมนหรือทุตอังค์อามุน (Tutankhamen) คลุมศีรษะมัมมี่ของพระองค์ หน้ากากซึ่งมีน้ำหนัก 22.04 ปอนด์ เป็นส่วนหนึ่งของการจัดแสดงซึ่งเป็นที่นิยมในพิพิธภัณฑ์อียิปต์ในกรุงไคโรประเทศอียิปต์
 
Great Pyramid
         พีระมิดที่ใหญ่ที่สุด คือ Great Pyramid (ดูภาพ) แห่งกิซ่า (Giza) สร้างเสร็จเมื่อประมาณ 2556 ปีก่อนคริสตกาล แผนภาพ แสดงให้เห็นมุมมองภายในพีระมิด 
พีระมิดและมัมมี่
          ก้อนหินบางก้อนของพีระมิดจะสลักสมญานามของทีมงานที่สร้างพีระมิดเหล่านั้น เช่น "กลุ่มผู้ทรงพลัง (the Vigorous Gang)", " กลุ่มผู้ทรหด (the Enduring Gang)"และ"กลุ่มช่างฝีมือ (the Craftsman Gang)"   เหมือนกับคนงานก่อสร้างในปัจจุบันที่สลักชื่อไว้บนตึกระฟ้าที่พวกเขาสร้าง  เมื่อผ่านไปหลายยุก ผู้สร้างพีระมิดจะขูดข้อความภายในพีระมิดออก
ใครเป็นผู้สร้างปิรามิด?  แรงงานส่วนมากจะเป็นเกษตรกร พวกเขาจะทำงานให้กับรัฐบาล ในช่วงเวลาที่แม่น้ำไนล์ไหลท่วมและพวกเขาไม่สามารถทำนาได้ อย่างไรก็ตาม ประเทศก็จัดหาอาหารและที่อยู่อาศัยให้กับแรงงานในช่วงเวลานี้
ประวัติศาสตร์ทางสังคม
 
เกษตรกร
รายละเอียดจากภาพวาดที่หลุมฝังศพนี้แสดงให้เห็นเกษตรกรชาวอียิปต์ในที่ทำงาน ชาวอียิปต์ปลูกข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์เพื่อสำรองอาหารไว้ให้ตัวเองและส่งออกไปยังอารยธรรม อื่น ๆ พวกเขายังปลูกผักและผลไม้ในเขตชลประทานอีกด้วย
 
ครื่องสำอาง
ชาวอียิปต์โบราณใช้เครื่องสำอางไว้สำหรับการทำงานและการเล่น เครื่องสำอางจะป้องกันชาวนาจากแสงแดดและความร้อนและใช้เพื่อเพิ่มความสวยงาม ผู้ชายและผู้หญิงชาวอียิปต์จะใช้เครื่องแต่งหน้า คือ ผงทาขอบตาเขียนตาตัวเอง พวกเขาทำผงทาขอบตาจากแร่ธาตุผสมกับน้ำ พวกเขายังแช่ดอกไม้และไม้หอมในน้ำมันและทาถูน้ำมันเข้าไปในผิวหนังของตนเอง เครื่องสำอางที่ตาดำจะชะลอแสงจ้าของดวงอาทิตย์ น้ำมันจะป้องกันผิวจากอากาศแห้ง ชาวอียิปต์เก็บเครื่องสำอางของพวกเขาไว้ในหีบ ดังภาพด้านบน
 
การละเล่น
การละเล่นที่เป็นที่นิยมกับคนทุกชนชั้นของสังคมอียิปต์ แผ่นกระดานที่แสดงด้านล่างสำหรับเกม Senet  ยังปรากฎในภาพวาดด้วย ผู้เล่นโยนไม้หรือกระดูกข้อนิ้วมือขึ้นเพื่อจะย้ายหมากเดินของตนเองผ่านสี่เหลี่ยมแห่งความโชคดีหรือโชคร้าย ผู้เล่นจะได้รับชัยชนะโดยการย้ายหมากเดินทั้งหมดของเขาหรือเธอออกไปจากกระดาน
 
ผู้สร้างวิหาร
ศิลปินวาดภาพที่มีสีสันของมหาวิหารคาร์นัค (the Karnak Temple Complex)  อาจจะดูเหมือนอธิบายว่าทำไมฟาโรห์อียิปต์จึงต้องการคนงานถึงหลายพันคนในการสร้างวิหารของพระองค์ นักประวัติศาสตร์บางคนเชื่อว่าคนงานอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของแรงงานที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนจากชนชั้นเกษตรทั่วอียิปต์ ซึ่งเป็นรูปแบบของการบริการชุมชน ในภาพด้านซ้าย คือวิหารในปัจจุบัน แม้ว่าจะมีความความลางเลือนและถูกน้ำกัดเซาะ วิหารยังคงทำให้เกิดความน่าเกรงขาม

ประวัติศาสตร์ทางสังคม
การทำงานและการละเล่นในอียิปต์
สำหรับชาวอียิปต์โบราณ ชีวิตมักจะเกี่ยวข้องกับการทำงานอย่างหนัก เมื่อสภาพอากาศดี คนส่วนมากจะทำงานในทุ่งนา ผลิตอาหารเพื่อครอบครัวและเพื่อการส่งออก ในช่วงฤดูน้ำหลาก เกษตรกรเหล่านี้หลายพันคนจะถูกเรียกให้ไปช่วยสร้างวิหารของฟาโรห์
แต่ชีวิตไม่ได้อยู่กับการทำงานทั้งหมด การขุดค้นทางโบราณคดี มีหลักฐานว่า ชาวอียิปต์ทั้งชนชั้นสูงและสามัญชนได้ค้นพบแนวทางที่ทำให้ตัวเองเกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน