แปลจาก...Word History ของ McDougal Littel
แปลโดย...ทรงศักดิ์ สายหยุด

อินเดียโบราณ (Ancient India)

อินเดียโบราณ (Ancient India)
ภูมิศาสตร์และอินเดียยุคแรก
ภูมิศาสตร์ของอินเดีย
ถ้าเราดูแผนที่เอเชีย เราจะเห็นแผ่นดินขนาดใหญ่ คล้าย ๆ รูปสามเหลี่ยมหรือคล้ายกับรวงผึ้ง ยื่นออกมาจากส่วนทางตอนใต้ของทวีปเอเชีย นั่นแหละคือประเทศอินเดีย เป็นทำเลแหล่งกำเนิดของอารยธรรมยุคแรกแห่งหนึ่งของโลก

ธรณีสัณฐานและแม่น้ำ
อินเดียเป็นประเทศที่ใหญ่โตมหึมา ในความเป็นจริง มันใหญ่มากจนกระทั่งนักภูมิศาสตร์มากมายเรียกมันว่า อนุทวีป (subcontinent)  อนุทวีปคือทวีปขนาดใหญ่แต่เล็กกว่าทวีป ปกติแล้วอนุทวีปจะแยกออกเป็นส่วนหนึ่งของทวีปตามลักษณะกายภาพ ถ้ามองดูแผนที่ จะเห็นภูเขาขนาดใหญ่ แยกอินเดียออกเป็นส่วนหนึ่งของเอเชีย
ภูเขาหิมาลัยเป็นภูเขาเทือกหนึ่งในบรรดาเทือกเขาทางอินเดียตอนเหนือ เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในโลก ทางทิศตะวันตกก็มีเทือกเขาฮินดูกูช (Hindu Kush) แม้ว่าภูเขาเหล่านี้จะทำให้เข้าไปสู่อินเดียยาก เหล่าผู้รุกรานก็ยังค้นพบทางผ่านภูเขาเหล่านั้น ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์
ทางตะวันตกของเทือกเขาหิมาลัย ก็เป็นทะเลทรายอันกว้างใหญ่ไพศาล ส่วนที่เหลือของอินเดียจำนวนมาก เต็มไปด้วยที่ราบอันอุดมสมบูรณ์และที่ราบสูงอันขรุขระ
แม่น้ำสายสำคัญหลายสายไหลลงมาจากภูเขาหิมาลัย ลุ่มแม่น้ำแห่งหนึ่งในหลายแห่งคือลุ่มแม่น้ำสินธุ (Indus valley) เป็นที่ตั้งของอารยธรรมแห่งแรกของอินเดีย ปัจจุบันแม่น้ำสินธุตั้งอยู่ในประเทศปากีสถาน ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของอินเดีย เมื่อเวลาหิมะตกหนักในภูเขาหิมาลัย หลอมเหลวไหลหลากเป็นแม่น้ำสินธุ เช่นเดียวกับในเมโสโปเตเมียและอียิปต์ น้ำหลากจะทิ้งโคลนอันอุดมสมบูรณ์เป็นชั้น ๆ ไว้เบื้องหลัง โคลนเหล่านั้นจะสร้างที่เพาะปลูกอันอุดมสมบูรณ์ให้กับเหล่าผู้ตั้งหลักแหล่งในยุคแรก

ภูมิอากาศ
ส่วนมากอินเดียจะมีภูมิอากาศร้อนและชื้น ภูมิอากาศแบบนี้ ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมของอินเดียอย่างหนัก ลมประจำฤดูทำให้เกิดฤดูฝนและฤดูแล้ง
ในฤดูร้อน ลมมรสุมจะพัดจากมหาสมุทรอินเดียเข้าสู่อินเดีย พัดพาฝนให้ตกหนัก ซึ่งสามารถทำให้เกิดน้ำท่วมหนัก อินเดียบางส่วนจะรับน้ำฝนมากถึง 100 นิ้ว หรืออาจจะถึง 200 นิ้วในช่วงนี้ ในฤดูหนาว ลมจะพัดลงจากภูเขา อิทธิพลนี้ทำให้ความชื้นพัดออกจากอินเดียและทำให้เกิดฤดูหนาวที่อบอุ่น แห้งแล้ง

อารยธรรมฮารัปปา (Harappan Civilization)
นักประวัติศาสตร์ทั้งหลายเรียกอารยธรรมที่เจริญรุ่งเรืองในลุ่มแม่น้ำสินธุว่า อารยธรรม ฮารัปปา (Harappan Civilization) อีกประการหนึ่ง การตั้งถิ่นฐานของฮารัปปามากมาย ถูกค้นพบตามฝั่งแม่น้ำสรัสวดี ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของแม่น้ำสินธุ
อารยธรรมฮารัปปาคล้ายกับสังคมโบราณอื่น ๆ ได้พัฒนาปรับปรุงชลประทานและเกษตรกรรม ในขณะที่เหล่าเกษตรกรเริ่มผลิตข้าวปลาอาหารได้ล้นเหลือ เมืองเล็กและเมืองใหญ่ก็เกิดขึ้นในอินเดีย


เมืองแรกของอินเดีย
อารยธรรมฮารัปปาตั้งชื่อตามเมืองฮารัปปา อันทันสมัย ในประเทศปากีสถาน ใกล้ ๆ เมืองนี้ มีการค้นพบซากปรักหักพังของอารยธรรมเป็นครั้งแรก จากการศึกษาซากปรักหักพัง นักโบราณคดีคิดว่า อารยธรรมนี้เจริญรุ่งเรืองอยู่ระหว่าง 2,300 ถึง 1,700 ปี ก่อนคริสตกาล
แหล่งข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดที่เรามีเกี่ยวกับอารยธรรมฮารัปปาคือซากปรักหักพังของเมืองขนาดใหญ่สองเมือง คือ เมืองฮารัปปาและเมืองโมเหนโจ ดาโร (Harappa and Mohenjo Daro) เมืองสองเมืองนี้ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำสินธุห่างจากกันออกไปมากกว่า 300 ไมล์ แต่คล้ายคลึงกันอย่างน่าประหลาด
ทั้งเมืองฮารัปปาและเมืองโมเหนโจ ดาโร มีการวางผังเมืองเป็นอย่างดี แต่ละเมืองตั้งอยู่ใกล้ป้อมปราการ ถัดจากป้อมปราการเหล่านี้ จะมีผู้พิทักษ์เมืองสามารถมองลงไปยังถนนทำด้วยอิฐซึ่งตัดกันที่มุมด้านขวาและมีคลังเก็บสินค้า ที่ทำงาน ร้านค้า และบ้านเรือนตั้งเป็นเส้นแนว อีกประการหนึ่ง เมืองทั้งสองเมืองมีบ่อน้ำสาธารณะมากมาย

ความสำเร็จของฮารัปปา
อารยธรรมฮารัปปามีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก บ้านเรือนส่วนมากมีห้องน้ำซึ่งมีท่อประปาอยู่ภายใน ช่างฝีมือทำเครื่องปั้นดินเผา เครื่องเพชรพลอย สินค้าจากงาช้าง และผ้าฝ้ายได้อย่างยอดเยี่ยม ใช้เครื่องมือที่มีคุณภาพสูงและพัฒนาระบบการชั่งและการวัด
ชาวฮารัปปายังได้พัฒนาระบบการเขียนครั้งแรกของอินเดียด้วย แต่นักวิชาการยังไม่รู้วิธีอ่านภาษานี้ ดังนั้น เราจึงรู้จักสังคมฮารัปปาน้อยมาก นักประวัติศาสตร์คิดว่า ชาวฮารัปปามีกษัตริย์และรัฐบาลกลางที่เข้มแข็ง แต่พวกเขาไม่มีความมั่นใจ ประชาชนก็คล้ายกวับในอียิปต์ อาจจะนับถือกษัตริย์เป็นเทพเจ้า
อารยธรรมฮารัปปาสิ้นสุดลงประมาณ ศตวรรษที่ 1,700 ก่อนคริสตกาล แต่ไม่มีใครแน่ใจว่าเป็นเพราะเหตุใด บางที อาจจะมีผู้รุกรานมาทำลายเมืองหรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น น้ำท่วมหรือแผ่นดินไหว ทำให้อารยธรรมล่มสลาย


แผนที่อินเดีย
การอพยพของอารยัน (Aryan)
ไม่นานนักหลังจากอารยธรรมฮารัปปาล่มสลาย มีกลุ่มชนกลุ่มใหม่อพยพเข้าในลุ่มแม่น้ำสินธุ กลุ่มคนเหล่านั้นเรียกว่า อารยัน (Aryan) เดิมทีกลุ่มคนเหล่านั้นมาจากพื้นที่รอบ ๆ บริเวณทะเลแคสเปียนในเอเชียตอนกลาง อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป กลุ่มคนเหล่านั้นก็กลายเป็นกลุ่มที่มีอำนาจเหนือกว่าในอินเดีย

การเข้ามาและการแพร่กระจาย
ชาวอารยันมาถึงอินเดียครั้งแรก เมื่อศตวรรษที่ 2,000 ก่อนคริสตกาล นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีเชื่อว่า ชาวอารยันข้ามผ่านช่องเขาเข้าไปสู่อินเดียในทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เมื่อผ่านไปหลายศตวรรษ ชาวอารยันจึงแพร่กระจายไปทางทิศตะวันออกและทิศใต้เข้าไปสู่อินเดียตอนกลาง จากเอเชียกลาง พวกเขาก็อพยพไปไกลแม้ทางทิศตะวันออกเข้าไปสู่ลุ่มแม่น้ำคงคา
ส่วนมากที่เรารู้เกี่ยวกับสังคมอารยันมาจากการเขียนทางศาสนาที่รู้จักกันว่า พระเวท การเขียนเหล่านี้เป็นการรวบรวมบทกวี บทสวดสรรเสริญเทพเจ้า ตำนาน และพิธีกรรมที่นักบวชชาวอารยันเขียนขึ้น

การปกครองและสังคม
เนื่องจากเป็นพวกเร่ร่อน ชาวอารยันจะพาฝูงสัตว์เลี้ยงไปด้วยในขณะที่พวกเขาอพยพ แต่เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาจะตั้งหลักแหล่งเป็นหมู่บ้านและเริ่มจะทำเกษตรกรรม ชาวอารยันไม่เหมือนกับชาวฮารัปปา ไม่ได้สร้างเมืองใหญ่มากมาย
ระบบสังคมอารยันยังแตกต่างจากระบบของฮารัปปาอีกด้วย อารยันอาศัยอยู่เป็นสังคมเล็ก ๆ ส่วนใหญ่จะอยู่กันเป็นครอบครัว ไม่มีผู้มีอำนาจปกครองแบบโดดเดี่ยว แต่ละกลุ่มจะมีผู้นำกลุ่มเป็นของตนเองแทน มักจะมีนักรบผู้มีทักษะเกิดขึ้นอยู่บ่อย ๆ
หมู่บ้านชาวอารยันปกครองโดยพระราชา พระราชาของอารยันคือผู้นำที่ปกครองหมู่บ้านและดินแดนรอบ ๆ หมู่บ้าน ชาวบ้านจะทำเกษตรกรรมบางส่วนในดินแดนนี้ให้กับพระราชา พวกเขาจะใช้ส่วนอื่น ๆ เป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์ให้กับโค ม้า แกะ และแพะ

แม้ว่าจะมีพระราชามากมายมีความเกี่ยวดองเป็นญาติกัน โดยปกติแล้ว พวกเขาก็ไม่เป็นมิตรกัน บางครั้ง พระราชาก็เข้าร่วมกันเป็นกองทัพต่อสู่กับศัตรูทั่ว ๆ ไป อย่างไรก็ตาม เวลาอื่น พระราชาก็เสด็จไปทำสงครามซึ่งกันและกัน ในความเป็นจริง กลุ่มอารยันจะสู้รบกันเกือบจะเป็นกิจวัตรเหมือนกับสู้รบกับศัตรูภายนอก

ภาษา
ผู้ตั้งหลักแหล่งชาวอารยันพวกแรกไม่มีการอ่านและการเขียน ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงต้องจำบทกวีและบทเพลงสรรเสริญซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญในวัฒนธรรมของพวกเขา เช่น พระเวท ถ้าประชาชนลืมบทกวีและบทเพลงสรรเสริญเหล่านี้ ผลงานก็จะสูญสิ้นไปตลอดกาล
            ภาษาที่ชาวอารยันเหล่านี้ใช้เรียบเรียงบทกวีและบทเพลงสรรเสริญ คือ ภาษาสันสกฤต ซึ่งเป็นภาษาที่สำคัญมากที่สุดของอินเดียโบราณ ครั้งแรก ภาษาสันสกฤตเป็นภาษาพูดเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในที่สุด ประชาชนก็รู้จักวิธีเขียน ดังนั้นพวกเขาจึงเก็บบันทึกไว้ได้ การบันทึกเป็นภาษาสันสกฤตเหล่านี้เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสังคมอารยัน ภาษาสันสกฤตไม่ได้พูดมาเป็นเวลานานแล้วในปัจจุบันนี้ แต่มันเป็นรากฐานของภาษาหลายภาษาในเอเชียใต้สมัยใหม่ (เชน ฮินดี ทมิฬ พม่า ลาว ไทย เขมร)





การดำเนินชีวิตในโมเหนโจ ดาโร
โมเหนโจ ดาโร เป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งในสองเมืองของอารยธรรมฮารัปปา ตั้งอยู่ถัดจากแม่น้ำสินธุในประเทศปากีสถานในปัจจุบัน บางทีเมืองนี้อาจจะกินเนื้อที่ถึงหนึ่งตารางไมล์ (ประมาณ 1.6 ตารางกิโลเมตร) ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้มีความสำราญกับความสะดวกสบายที่เจริญก้าวหน้ามากที่สุดในช่วงเวลานั้น รวมทั้งมีท่อประปาภายในบ้าน

ศิลปะฮารัปปา
ชาวฮารัปปาเหมือนกับผู้คนสมัยโบราณแหล่งอื่น ๆ สร้างตราประทับเล็ก ๆ เหมือนในภาพ (ภาพสัตว์คล้ายวัว) ใช้ประทับสินค้า พวกเขาจะใช้หม้อดินเหนียวเหมือนในภาพ ซึ่งเป็นโถจากหลุมฝังศพ